บทความเกี่ยวกับความรู้เรื่องราวของพระเยซูคริสต์ ตอน ก่อนการทรงสร้าง ถ้าเราจะเล่าถึงที่มาของศาสนาคริสต์ ความเป็นจริงไม่ค่อยอยากเน้นคำว่า ศาสนา เพราะคำว่า ศาสนา (อังกฤษ: religion) หมายถึง ความเชื่อในสิ่งศักดิ์สิทธิ์ สิ่งเหนือธรรมชาติ ในหลักอภิปรัชญาว่าทุกสรรพสิ่งเกิดขึ้นมาดำรงอยู่และจะเป็นเช่นไรต่อไป มีหลักการ สถาบัน หรือ ประเพณี ที่เป็นที่เคารพโดยทั่วไป แล้วอาจกล่าวได้ว่า ศาสนาเป็นสิ่งที่ควบคุม และประสานความสัมพันธ์ของมนุษย์ ให้อยู่ร่วมกันได้อย่างปกติสุข ฟังๆดูแล้วก็เป็นเหมือนสิ่งหนึ่งของจิตวิญญาณของมนุษย์ที่เขามีความปรารถนาโหยหาบุคคลผู้หนึ่งในแง่จิตวิญญาณซึ่งเป็นอะไรก็ได้เพื่อที่จะช่วยเขาให้สามารถดำรงชีวิตอยู่กับผู้คนอื่นๆได้อย่างปกติสุขนั่นเอง และมนุษย์คิดว่าการที่ตัวเราควานหาผู้ศักดิ์สิทธิ์ที่จะอวยพรสิ่งต่างๆให้มาเติมชีวิตของเรา เช่น ความร่ำรวย ความรู้สูง มีอำนาจใหญ่โต มีชื่อเสียงใหญ่โตมีคนรายล้อม หรือเป็นคนดีก็ตาม แต่สิ่งนั้นหาได้เติมเต็มไม่ แพราะสิ่งเหล่านี้ก็ล้วนอนิจจังทั้งสิ้น แต่สำหรับเรื่องราวของของพรเยซูคริสต์ คือ เรื่องราวที่เกี่ยวกับการที่เรารู้ที่มาที่ไปของมวลมนุษย์ชาติ เพื่อเราจะได้รู้ว่าเรานั้นได้ถือกำเนิดเกิดมาจากพระเจ้าและจำเป็นต้องมีความสัมพันธ์กับพระองค์ และทุกคนต้องกลับคืนสู่พระเจ้า

โดยมีชีวิตที่มีเป้าหมายคือของการทรงสร้างคือทุกสิ่งนั้นมีชีวิตอยู่เพื่อนมัสการพระเจ้าและนั้นคือบทสรุปของสันติสุขของมวลมนุษย์ทุกคน ถ้าจะยกตัวอย่างเรื่องนึง คือ มีผู้ชายคนหนึ่งซึ่งเป็นเด็กกำพร้าได้เจริญเติบโตมาจากการได้รับการอุปการะเลี้ยงดูจากครอบครัวหนึ่งที่เก็บเขามาเลี้ยงจนประสพความสำเร็จในชีวิตของเขา แต่สำหรับเขาเงินทองเหล่านั้นไม่ได้เติมเต็มอะไรในจิตใจของเขาเลย นอกจากสิ่งที่เขาอยากรู้ที่สุด คือ พ่อ แม่ของเขาคือใคร? เพื่อที่เขาจะได้เข้าไปใกล้ท่านและกอดท่าน และได้เอาความสำเร็จที่เรามีอยู่ได้อวดท่าน นั่นแหล่ะคือสิ่งที่เติมเต็มชีวิตของเราให้เรามีความสุขได้อย่างแท้จริง แต่เราไม่รู้หนทางที่จะพบท่านว่าจะทำอย่างไร เราอาจยอมทุ่มเททั้งกายใจและทั้งแรงทรัพย์เพื่อจะติดตามหาสิ่งที่ชายคนนั้นต้องการมากที่สุด และปรากฏกลับมีบุคคลหนึ่งได้บอกว่าตัวท่านเองมาจากพ่อแม่ของเขาและจะนำเขากลับคืนสู่พ่อแม่ของเขา และบุคคลที่ผมกล่าวถึงนี้ผมเรียกพระองค์ว่า “พระเยซูคริสต์ และเรื่องราวของพระเยซูคริสต์ผู้นี้แหละได้นำเรากลับคืนสู่สิ่งที่เราพึงจะเป็น และมีชีวิตอย่างมีความสุข แบบว่าเอาอะไรมาแลกก็ไม่ยอม คือการที่เราจะได้กลับคืนสู่พระเจ้านั่นเอง เพราะฉะนั้นกุญแจสำคัญของเราที่จะสามารถนำเรากลับคืนสู่พระเจ้าได้คือ การรู้จักพระเยซูคริสต์ว่าพระองค์เป็นใคร และเกี่ยวข้องกับมนุษย์อย่างเราอย่างไร อยากจะย้อนเวลากลับไปก่อนที่จะมีสิ่งใดๆทั้งหมดนี้ บนสวรรค์สถานมีบุคคลผู้หนึ่งคือบุคคลที่เราก็อาจไม่รู้ว่าเราจะเรียกเขาว่าอะไรดี เราจึงเรียกท่านผู้นี้ว่าพระเจ้า ซึ่งเป็นผู้หนึ่งที่บอกแทนตัวเองว่าท่านเป็น อัลฟ่า และโอเมก้า เป็นเบื้องต้นและเป็นเบื้องปลาย เป็นปฐมและมีอวสานได้เนรมิตสร้างสรวงสวรรค์ และความเป็นพระเจ้าของพระองค์นั้นแบ่งออกเป็น 3 พระภาค คือ พระบิดา พระบุตร และพระวิญญาณบริสุทธิ์(เรื่องนี้อาจงงอยู่บ้างแต่จะอธิบายในโอกาสต่อไป)และบุคคลที่ที่เราเรียกว่าพระบุตรนั้น คริสเตียนกำลังหมายถึงพระเยซูคริสต์และพระองค์ได้ให้ถือกำเนิดกลุ่มเทพ หรือถูกเรียกว่าทูตสวรรค์นั่นเอง โดยคำตัสแบบเนรมิตสร้าง กลุ่มเทพเหล่านี้ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อให้เขาทำหน้าที่นมัสการพระองค์ และถูกแบ่งเป็นชั้นๆ ซึ่งไม่อยากจะแบ่งตอนนี้ให้ปวดหัวเล่น แต่จะบอกว่าบนสวรรค์ได้พูดถึงทูตสวรรค์เหล่านี้แบบเด่นๆซึ่งมีอยู่ 3 ตน คือ มิคาเอล คือทูตสวรรค์นักรบ, กาเบรียล คือ ทูตแห่งผู้สื่อสาร และ อีกตนนึง ชื่อ ลูซิเฟอร์ ทูตแห่งการนมัสการ ซึ่งลักษณะของมันช่างโดดเด่น และมีความงดงามอย่างมากๆ และมันได้เป็นผู้นำบรรดาทูตสวรรค์ทั้งหมดนมัสการพระเจ้า และมาถึงจุดหนึ่งที่มันมีใจเย่อหยิ่งมากทั้งๆที่มันก็เห็นพระเจ้าแล้ว ซึ่งพระเจ้าทรงเต็มไปด้วยพระสิริพระองค์ ซึ่งตามกฏแล้วถ้ามนุษย์คนไหนเห็นพระองค์จะต้องตาย แต่มันเห็นแล้ว แต่มันยังกบฏ และไม่เพียงแค่นี้มารซาตานได้นำทูตสวรรค์ 1 ใน 3 ส่วนกบฏต่อพระเจ้า และพระเจ้าจึงได้ขับไล่ทูตสวรรค์ลูซิเฟอร์ ลงไปสู่ย่านฟ้าอากาศ และมันจึงถูกเรียกว่า”ซาตาน” จากนั้นเป็นต้นมา

ซาตาน มันคือผู้ล่อลวง และผู้กล่าวโทษ และมารมันก็ได้นำเทพเหล่านั้นออกจากสวรรค์ 1 ใน3 ส่วนตามมันมาด้วย นี่คือสงครามในสวรรค์ครั้งที่ 1 และแน่นอนมันได้เสื่อมเกียรติสิริต่อพระเจ้า อีกทั้งมันจะไม่มีวันปรารถนาดีกับคุณแน่นอน แต่จงรู้เถิดว่าพระเยซูทรงมีชัยชนะเหนือมันแน่นอน และนี้คือเบื้องต้นก่อนที่เราจะรู้จักเรื่องราวศาสนาคริสต์มากกว่านี้ นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นปฐมบทของการทรงสร้างของพระเจ้า และสิ่งที่ได้ทรงสร้างเหล่านั่นพระองค์ให้มีความสัมพันธ์กับพระองค์ และให้มีชีวิตอยู่เพื่อถวายเกียรติแด่พระองค์และนมัสการพระองค์ โคโลสี 1:16 “เพราะว่าในพระองค์สรรพสิ่งได้ถูกสร้างขึ้น ทั้งในท้องฟ้าและที่แผ่นดินโลก สิ่งซึ่งประจักษ์แก่ตาและซึ่งไม่ประจักษ์แก่ตา ไม่ว่าจะเป็นเทวบัลลังก์หรือเป็นเทพอาณาจักรหรือเป็นเทพผู้ครองหรือศักดิเทพ “สรรพสิ่งทั้งสิ้นถูกสร้างขึ้นโดยพระองค์และเพื่อพระองค์ แสดงว่าพระเยซูเป็นผู้อยู่ก่อนทรงสร้างโลกนี้แสดงว่า ก่อนที่โลกนี้มีมาเราได้รู้ว่า พระเยซูได้อยู่กับพระเจ้าที่เต็มไปด้วยเกียรต์ สิริของพระองค์ และทรงเป็นพระเจ้าด้วย ด้วยเหตุนี้เราจึงรู้แล้วว่าพระเยซูคริสต์ผู้นี้คือพระเจ้าด้วย ยอห์น1:1-3 ประยุกต์ใช้ ชิวิตของเราสามารถยืนอยู่ในจุดที่มีศักดิ์ศรีได้ถ้าเรารู้บทบาทของเรา เราอย่าเปรียบเทียบตัวเราเองกับหัวหน้าเรา อย่ากบฏ หรืออย่าล่อลวงใครให้หลงไปอยู่ในเล่ห์กลเพทุบายของเรา จงระวังเพราะว่าเราอาจตกลงในกลอุบายที่เราอาจตกเข้าไปในนั้นเองก็ได้

ถ้าเราไม่ให้เกียรติกับบุคคลที่สร้างเรา เท่ากับว่าเราไม่ให้เกียรติตัวเราเอง และคนอื่นก็จะไม่ให้เกียรติเราด้วย โดย อ.เด่น โยชูวา