“ในการศึกสงคราม ไม่มีคำว่ายุติธรรม” เรื่องนี้ก็เกิดขึ้นในสมัยรัชสมัยเจ้าติโลกราชพอขึ้นครองราษฐ์ไม่นานก็เกิดเรื่องไม่หยุดครั้งแรกแสนขานเป็นกบฏต่อมาก็ท้าวซ้อย ท้าวซ้อยหรือท้าวสิบนี่เป็นน้องสุดท้องของพระเจ้าติโลกราชเอง พระเจ้าติโลกราชหรือท้าวลกคิดปฏิวัติรัฐประหาร แย่งราชสมบัติมาจากพระเจ้าสามฝั่งแกนผู้บิดา แล้วเนรเทศไปไว้ที่เมืองสาด “ทีนี้ความรู้ถึงหูท้าวซ้อยที่ครองเมืองฝางอยู่ได้ทราบว่าท้าวลกผู้พี่กระทำการแย่งชิงราชสมบัติก็แค้นเคืองเป็นยิ่งนักรับสั่งการให้เสนาอาตย์เดินทางไปรับเสด็จพระเจ้าสามฝั่งแกนมาจากเมืองสาดพามาประทับที่เวียงเมืองฝางและก็ตระเตรียมไพร่พลไว้รับมือกับพี่ชายคงจะมีการท้าทายกัยอยู่ในทีด้วยพร้อมกับตั้งแข็งเมืองไม่ยอมอ่อนน้อมต่อพระเจ้านครพิงค์องค์ใหม่ ทีนี้ทางฝ่ายเจ้าติโลกราชเจ้านครพิงค์พอรู้ว่าเจ้าท้าวซ้อยแข็งเมืองมิหนำซ้ำยังไปรับพระบิดาเข้าไว้ในเวียงฝางเป็นการท้าทายเข้าไปอีกก็กริ้วนักจึงรีบสั่งให้หมื่นหาญต่อท้องผู้ครองนครเขลางค์ ถือพลหนึ่งหมื่นหาญแต่ท้องผู้ครองนครเขลางค์ถือพลหนึ่งหมื่นยกไปตีเมืองฝาง

ชาวฝางพอรู้ข่าวก็ยกทัพออกโจมตีหน้าทัพหมื่นหาญแต่ท้องขณะเดินทางคือเข้าไปตีแบบกองโจร ทัพหมื่นหาญแต่ท้องไม่ทันรู้ตัวก็แตกพ่ายไปความทราบถึงพระเจ้าติโลกราชพระองค์ก็ทรงมีกระแสรับสั่งให้หมื่นโลกสามล้านถือพลสี่หมื่นยกไปตีเมืองฝาง เมืองฝางมีคนน้อยกว่าทัพของเจ้าหมื่นดลกสามล้านก็ยกเข้าไปปล้นเวียงฝางจับตัวพระเจ้าสามฝั่งแกนนำไปยังนครเชียงใหม่ส่วนเจ้าท้าวซ้อยพระอนุชานั้นหลบหนีไปได้ ในการศึกสงครามไม่มีคำว่ายุติธรรมหรือศีลธรรมอะไรกันละ ใครชนะก็นับว่าดีใครแพ้ก็เสียคนไปเลย แต่บางคนเขาว่าเป็นเพราบุญวาสนาของคนเวลาเขากำลังรุ่งโรจน์อย่าได้เข้าไปขวางทางทีเดียวแล้วก็คนเราใช่ว่าจะรุ่งเรืองไปตลอดชีวิตก็หาไม่มัก็มีขึ้นมีลง มีเจริญมีเสื่อมด้วนกันทั้งนั้นพระเจ้าติโลกราชกำลังดวงดี ชะตาขึ้นสูงลิ่วพระอนุชาสู้บุญไม่ไหวก็ต้องแพ้ตอนนั้น เจ้าท้าวซ้อยได้หนีไปถึงเมืองเทิง คืออำเภอเทิงเดี๋ยวนี้ เมืองนี้เจ้าเมืองชื่อว่หมื่นเทิงสานขนานมีความภักดีต่อเจ้าท้าวซ้อยเป็นยิ่งนัก แต่เจ้าท้าวซ้อยไม่มีวาสนา ดังนั้นเมื่อหมื่นโลกสามบ้านยกทัพติดตามไปถึงเมืองเทิงก็ได้สู้รบกันเป็นสามารถกับท้าวซ้อยแล้วในที่สุดท้าวซ้อยก็สิ้นพระขชนม์ในที่รบ พอท้าวซ้อยสิ้นพระชนม์ในที่รบ หมื่นเทิงสามขนานก็เกิดมุมานะที่จะพจญกับพระเจ้าติโลกราชให้ถึงขั้นแตกหักหลังจากได้นั่งนึกนอนตรองอยู่หลายเวลาก็เกิดความคิดขึ้นมา หมื่นเทิงสามขนานแกรู้ดีว่าลำพังทัพเล็กๆน่ะสู้กับทัพนครพิงค์ไม่ชนะแน่ตอนนี้แกก็เลยคิดการไม่เกิดมงคลให้แก่ตัวเอง “ก็คิดชักศึกต่างด้าวท้าวต่างแดน ตอนนั้นเชียงใหม่ยังไม่ขึ้นกับใคร หมื่นเทิงสามขนานก็ลอบมีหนังสือลับให้คนนำไปถวายสมเด็จพระบรมราชาธิราชพระเจ้ากรุงศรีอยุธยาขอพระบรมเดชานุภาพเป็นที่พึ่ง” “พระบรมราชาแห่งกรุงศรีอยุธยาได้ทรงทราบข่าวทุรยุคอันมีในมหารัฐประเทศดังนั้นก็ไม่รอช้า โปรดยกทัพหลวงขึ้นไปอยู่ ณ เมืองเชียงทองและทัพหน้าไปถึงตำบลสลบตื่นคือปากห้วยแม่ตื่นและทัพหนุนยกไปถึงตำบลบ้านโคน

•แก้ไขล่าสุด• ( •วัน•เสาร์•ที่ 24 •มีนาคม• 2012 เวลา 09:01 น.• )