เมื่อคราวที่แล้วท่านได้รู้จักแล้วว่าใครคือ คนที่ขี้โกง คนนั้นคือ ยาโคบ และอีกคนผู้ที่ไม่รู้จักคุณค่าของสิทธิ์แห่งการอวยพรของพระเจ้าในฐานะสิทธิ์บุตรหัวปีผู้นั้นก็คือ เอซาว นั้นเอง และแล้วเมื่อเวลาสำคัญได้ใกล้มาถึง คือเวลาที่สำคัญที่อิสอัคจะได้ส่งมอบพระพรที่พระเจ้าของอับราฮัมต่อให่ทายาทรุ่นต่อไปซึ่งสิทธิ์นั้น ควรเป็นของเอซาวในฐานะบุตรหัวปีหรือลูกชายคนโต เพราะอิสอัคก็ชรามากแล้วดวงตาขุ่นมัวมองไม่ชัด หรือเทียบเท่ามองไม่เห็นนั่นเอง ใช้วิธีสำผัสเอาว่าใครเป็นใคร ซึ่งบุคคลที่อิสอัคคุ้นเคยที่สุดก็คือลูกชายหัวแก้วหัวแหวนคือ เอซาว ผู้ที่มีลักษณะมีขน และเขาเป็นคนที่มักออกไปล่าสัตว์และทำอาหารมาให้พ่อของเขาทานเสมอ และแน่นอนเอซาวรู้ว่า เขาได้แน่ๆ เขาจึงไม่ค่อยสนใจมากแล้วปล่อยตัวปล่อยใจไปตามใจของตัวเองโดยไม่เห็นคุณค่าอะไรเลย เพราะพ่อของเขาได้เรียวเอซาวให้เข้าพบและบอกกับเขาว่า “"ดูเถิด พ่อแก่แล้ว พ่อไม่รู้วันตายของพ่อ เจ้าจงเอาอาวุธของเจ้า คือแล่งธนูและคันธนูออกไปที่ท้องทุ่ง หาเนื้อมาให้พ่อ จัดเตรียมอาหารอร่อยมาให้พ่อ อย่างที่พ่อชอบนั้น และนำมาให้พ่อกิน เพื่อจะได้อวยพรแก่เจ้าก่อนพ่อตาย" จากนั้นเอซาวผู้กระหยิ่มยิ้มย่องในสิ่งที่ตัวเองจะได้ก็ได้ออกไปเพื่อล่าสัตว์ และกลับมารับพรจากพ่อ ทายซิว่าคนที่ไม่ค่อยรู้จักคุณค่าอย่างเขาจะรีบไปรีบมาหรือเปล่า

คนที่ไม่มีความสุขในเวลานี้ที่สุดคือ เรเบคาห์ ผู้เป็นแม่ของลูกทั้งสอง ซึ่งแอบได้ยินอิสอัคผู้เป็นสามีและลูกชายคนโตเอซาวได้พูดคุยกันก็เดือดร้อนในจิตใจอย่างมากจึงได้เรียกยาโคบผู้เป็นลูกชายหัวแก้วหัวแหวนเพื่อที่จะทำการซ้อนแผนของอิสอัคโดยการให้ยาโคบไปเอาแพะที่เธอเลี้ยงมาสองตัวและได้เอามาปรุงอาหารตามที่อิสอัคชอบ ขอถามจริงๆเถอะว่า ระหว่างเอซาวกับภรรยาผู้ที่มาเคียงข้างอิสอัคใครจะรู้ใจเขามากกว่ากัน เพราะเป้าหมายของเธอคือทำอย่างไรให้ยาโคบจะได้รับพระพรนั้น แต่ยาโคบผู้รอบคอบ ก็ถามว่า อ้าว แม่ก็พี่เอซาวเขามีขนเต็มไปหมด ส่วนเขาไม่มีขน แล้วจะทำไงดีโกหกไม่เป็น ขืนพูดอะไรไปจะกลายเป็นคำสาปแช่งมากกว่าฐานโกหกพ่อ ว่าแล้วเรเบคาห์ก็บอกว่า ขอให้คำสาปแช่งเหล่านี้จงตกอยู่กับเธอเถิด และไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นก็ยินดีเสมอ ที่จะไปรับคำสาปแช่งนั้นแทน เพราะนางเรเบคาห์ได้วางแผนอย่างแยบยล คือ เสื้อคลุมของเอซาวที่มีกลิ่นของเขาเอามาสวมให้ยาโคบ และเอาตรงแผงคอของแพะนั้นมันพันที่แขน เพราะเอซาวมีขนที่แขน และหลังจากที่ปลอมตัวพร้อมสรรพ ก็เป็นเวลาแห่งการสวมรอยของยาโคบที่กำลังจะกลายเป็นผู้ได้รับพรแทน ยาโคบได้นำเอาอาหารไปให้พ่อทาน อิสอัคผู้พ่อจึงแปลกประหลาดใจว่าทำไมเร็วนัก แสดงว่าแต่ก่อนทำตัวเป็นคุณชายเตร็ดเตร่ ไปเรื่อย แต่ยาโคบก็ฉลาดพอจึงบอกกับพ่อว่า เพราะพระเยโฮวาห์พระเจ้าของพ่อช่วยลูก และเมื่อมีการจับลูบคลำไม่ว่ากลิ่นเสื้อก็ดี และขนแพะก็ดีที่ยาโคบเอามาพันแขน ก็ทำคนชราและสายตาพร่ามัวอย่างอิสอัคก็ไม่สามารถจับได้ว่าบุคคลนี้ที่เขากำลังจะมอบพรของอับราฮัมนี้ให้กับเขานั้นไม่ใช่เอซาว แต่กลับเป็นน้องชายของเขาแทน และพรของเขานั้นก็คือ

“ขอพระเจ้าทรงประทานน้ำค้างจากฟ้าแก่เจ้า และประทานความอุดมสมบูรณ์ของแผ่นดิน ทั้งพืชและเหล้าองุ่นใหม่มากมายแก่เจ้า ขอให้ชนชาติทั้งหลายรับใช้เจ้า ขอให้ประชาชาติกราบไหว้เจ้า ขอให้เป็นเจ้านายเหนือพี่น้อง และบุตรชายมารดาของเจ้ากราบไหว้เจ้า ผู้ใดแช่งสาปเจ้าก็ขอให้ผู้นั้นถูกสาป* และผู้ใดอวยพรเจ้าก็ขอให้ผู้นั้นได้รับพร

(พี่น้องจดจำคำอวยพรเหล่านี้ไว้ดีดีนะครับเพราะมันเป็นเกี่ยวข้องกับชนชาติหนึ่งและมันเกี่ยวกับคริสเตียน และมันเกี่ยวกับเราในปัจจุบันจนไปถึงอนาคต)

และเมื่อยาโคบได้พรแล้ว ก็เหมือนกับคนที่กินข้าวเสร็จสะบัดก้นหนีโดยไม่ยอมล้างจานหายเข้ากลีบเมฆไป แล้วหลังจากนั้นล่ะเกิดอะไรขึ้น เอซาวผู้น่าสงสารกำลังผิวปากอย่างมีความสุข ในขณะที่กลับมาจากการล่าสัตว์และเอาไปทำเป็นอาหารมาให้พ่อ “พ่อครับ เอซาวผู้จะมารับพรจากพ่อมาแล้วครับ ลุกขึ้นมาทานและพร้อมกับอวยพรลูกด้วยครับ” คุณคิดว่าอย่างไร อิสอัคตกสะดุ้งกับสิ่งที่ได้ยินด้วยความตกใจว่า อ้าวแล้วใครกันล่ะที่มาก่อนหน้านี้ ถ้าไม่ใช่เอซาวลูกชายของเขา” อิสอัคพูดอะไรไม่ออกเพราะรู้แล้วว่าชายผู้ที่รับพรคนนั้นคือยาโคบนั้นเอง และบอกกับเอซาวไปว่า สงสัยพ่อคิดว่าคงเป็นยาโคบน้องชายของลูกแล้วล่ะ” รอยยิ้มเปลี่ยนไปด้วยอารมณ์เสียใจอย่างแรง พ่ออวยพรผมเดี๋ยวนี้ เอาพรส่วนที่เหลือให้ผมด้วยครับ” แล้วคุณคิดว่ามันจะมีมั้ยเพราะนี่คือสิ่งที่ดีที่สุดที่อิสอัคมีและเขาได้มอบให้ยาโคบเรียบร้อยแล้ว แต่อิสอัคงเหลือแต่สิ่งที่จะช่วยเอซาวได้คือ “ อิสอัคบิดาของเขาจึงตอบว่า "ที่อาศัยของเจ้าจะอยู่ห่างจากความอุดมสมบูรณ์ของแผ่นดิน และห่างจากน้ำค้างจากฟ้าเบื้องบน แต่เจ้าจะมีชีวิตอยู่ด้วยดาบ และเจ้าจะรับใช้น้องชายของเจ้า แต่เมื่อเจ้าสลัดหลุดไปได้ เจ้าจะหักแอกของเขาออกจากคอของเจ้า"

แล้วคุณคิดว่าตอนนี้ชะตากรรมของยาโคบจะเป็นอย่างไรผู้จุดประกายแห่งความแค้นที่มันมากพอที่จะฆ่าน้องชายของเขาได้ แล้วคุณคิดว่ายาโคบจะสามารถยังคงอยู่กับพ่อแม่ และวิ่งเล่นกับพี่ได้อยู่มั้ย แน่นอน ยาโคบรู้ตัวว่า เขาตายแน่ และ ณ เวลานั้นวิธีที่ตัวเองจะรอด คือ เผ่นนั่นเอง และสถานที่ที่ยาโคบจะหนีไปอยู่นั่นคือดินแดนที่เรเบคาห์จากมานั่นคือ สถานที่ที่มี บุคคลผู้หนึ่งกำลังรอเขาอยู่ เขา คือ จอมโกงขั้นเทพ ผู้ซึ่งมีนามว่า ลาบัน คือลุงของเขานั่นเอง และระหว่างทางที่ยาโคบจะไปถึงที่ฮารานนั้น เขาได้ไปพบอะไรบ้าง คราวหน้าเราจะเสนอตอน “บันไดของเบธเอล” ท่านจะได้พบกับประสบการณ์ที่งดงามและแสนประทับใจพร้อมกับการเดินทางไปพบชายซึ่งเป็นลุงของเขาเอง ส่วนเอซาวก็ประชดชีวิตโดยการหนีไปอยู่กับลุงฝ่ายพ่อ คือ กับอิชมาเอล ผู้ซึ่งเป็นผู้ยิ่งใหญ่ในสายของชาวอาหรับนั่นเอง

สัปดาห์นี้ผมคงไม่อธิบายอะไรมาก ขอแค่คุณจำชายคนที่ชื่อยาโคบและการอวยพรของเขาดีๆเพราะชื่อของเขาจะถูกเปลี่ยนไป เป็น... และชนชาตินี้จะมีบุคคลผู้หนึ่งจะมาถือกำเนิด เขาจะถูกเรียกว่า “พระผู้ช่วยให้รอด หรือ พระเมสซิยาห์”

แล้วพบกันตอนหน้า ตอน “บันไดของเบธเอล” ขอพระเจ้าอวยพรนะครับ

เขียนโดย อ.เด่น โยชูวา

คริสตจักรหัวใจพระคริสต์ และ โยชูวาประเทศไทย

•แก้ไขล่าสุด• ( •วัน•พฤหัสบดี•ที่ 14 •มีนาคม• 2013 เวลา 12:04 น.• )