สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินไปทรงติดตามความก้าวหน้า ผลการดำเนินงาน โครงการในพระราชดำริ โรงเรียนร้องเข็มวิทยา อำเภอร้องกวาง จังหวัดแพร่  (๒๙ ก.พ.๒๕๕๕) สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนิน ไปทรงติดตามความก้าวหน้า ผลการดำเนินงานโครงการในพระราชดำริ โรงเรียนร้องเข็มวิทยา วัดร้องเข็ม ตำบลร้องเข็ม อำเภอร้องกวาง จังหวัดแพร่ ซึ่งเป็น ๑ ใน ๗ โรงเรียนพระปริยัติธรรม แผนกสามัญศึกษา ของจังหวัดแพร่ ในการนี้ทรงรับฟังการทูลรายงาน ผลการดำเนินงานของโรงเรียนและความก้าวหน้าของโรงเรียน ในโครงการตามพระราชดำริ กลุ่มโรงเรียนพระปริยัติธรรม แผนกสามัญศึกษา ซึ่งสามเณรเป็นนักเรียนชาวไทยภูเขาเผ่าม้ง กระเหรี่ยง อาข่า ไทยใหญ่ ไทยลื้อ ไทยพวน เนปาล และชนเผ่าพื้นเมือง ซึ่งด้อยโอกาส โดยสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงรับไว้เป็นโรงเรียนในโครงการตามพระราชดำริ พร้อมพระราชทาน ภัตตาหารเพล นมผงธาตุเหล็ก มีพระราชดำริให้ดูแลด้านสุขภาพพลนามัย และโภชนาการ ทรงเน้นให้ส่งเสริมการสอบนักธรรม ตรี โท และ เอก พร้อมพระราชทานทุนการศึกษา ส่งผลให้สามเณร มีสุขภาพร่างกายสมบูรณ์แข็งแรงขึ้น มีความสามารถในการเล่าเรียน มีผลการสอบระดับชาติ เพื่อวัดคุณภาพทางการศึกษา ดีขึ้น

สำหรับโรงเรียนร้องเข็มวิทยา ทรงรับไว้เป็นโรงเรียนในโครงการตามพระราชดำริ เมื่อปี ๒๕๕๒ เปิดการเรียนการสอนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑ – ๖ นายสมชาย โอดเฮิง ซึ่งเป็นครูในโรงเรียน ได้รับพระราชทานรางวัล เสมาธรรมจักรทองคำ จากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ด้านสังคมสงเคราะห์ โรงเรียนแห่งนี้ได้จัดการเรียนการสอนวิชาคอมพิวเตอร์ โดยฝึกนักเรียนนำเสนองาน โดยใช้โปรแกรมเพาเวอร์ พอยท์ และเอ็กเซล เป็นต้น ทั้งส่งเสริมการเรียนการสอนภาษาบาลี สอนไวยากรณ์ นักเรียนได้รับเหรียญทอง ในการสวด โพชฌังคะปะริตตัง ในงานแข่งขันทักษะวิชาการ กลุ่มโรงเรียนพระปริยัติธรรม จังหวัดน่าน /ส่วนวิชาภาษาไทย ใช้หนังสืออ่านเขียน เรียน ไทย สำหรับสอนนักเรียนที่อ่าน เขียน ยังไม่คล่อง และห้องสมุด ได้จัดโครงการส่งเสริมการอ่าน สอนให้นักเรียนทำหนังสือเล่มเล็ก โดยโรงเรียนได้รับพระราชทานหนังสือเป็นประจำ อาทิหนังสือนิทาน สื่อการเรียนการสอน และหนังสือพระราชนิพนธ์

จากนั้นได้ทอดพระเนตรโครงงานวิทยาศาสตร์ การทดลองการใช้สารชะลอความเหี่ยวของดอกไม้ ศึกษาเปรียบเทียบระหว่างยาพาราเซตตามอล ยาทัมใจ และ ยาแอนตาซิล ซึ่งชนิดหลังช่วยให้ดอกไม้เหี่ยวช้าที่สุด และ โครงงานวิทยาศาสตร์ การทดลองนำกรดผลไม้น้ำสัปปะรด ผสมน้ำมะนาว มาแช่โลหะ ส่งผลให้โลหะสะอาดมากกว่า ผลไม้อื่นๆ

ด้านโครงการฝึกอาชีพ สอนให้นักเรียนนำขี้เลื่อยผสมกาวมาปั้นเป็นตุ๊กตา จำหน่ายผ่านระบบสหกรณ์ เพื่อนำรายได้ฝากโครงการออมทรัพย์วันละ ๑ บาท ตามพระราชดำริ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี รวมทั้งสอนการทำดอกไม้จันท์จากไม้ไผ่ สำหรับใช้ในงานศพ เพื่อจำหน่ายและมอบให้การกุศล เพื่อเป็นรายได้ให้นักเรียน นอกจากนี้ยังมีปราชญ์ชาวบ้านมาสอนนักเรียน สานหมวก ทำไม้กวาดทางมะพร้าว ให้ความรู้เรื่องสมุนไพร ประเพณีล้านนา และ ศาสนาปฏิบัติ

พร้อมกันนี้ทรงเยี่ยมหน่วยแพทย์พระราชทาน และ ผู้ป่วยที่มาเฝ้าทูลละอองพระบาท ขอพระราชทานความช่วยเหลือ และทรงเยี่ยมราษฎร ที่มาเฝ้าทูลละอองพระบาทรับเสด็จ ส่วนใหญ่ประกอบอาชีพการเกษตร มีรายได้ครอบครัวละ ๑ หมื่นบาทต่อปี ชุมชนให้ความร่วมมือในการอุปถัมภ์นักเรียน และการจัดประเพณีทางศาสนาเป็นอย่างดี

จากนั้นได้ทอดพระเนตรโครงการเกษตรเพื่อภัตตาหารเพล ซึ่งส่งเสริมให้นักเรียนได้ฉันอาหารปลอดสารพิษ และ มีความรู้ด้านการเกษตร

•แก้ไขล่าสุด• ( •วัน•อังคาร•ที่ 19 •กุมภาพันธ์• 2013 เวลา 11:39 น.• )