วันอังคาร ที่ ๓ เมษายน ๒๕๕๕ หมู่้บ้านวังฟ่อนได้มีการจัดงานประเพณีบวชนาค ในสมัยพระพุทธเจ้า มีพญานาคตนหนึ่งนั่งฟังธรรมเทศนาของพระพุทธเจ้าแล้วได้เกิดศรัทธา จึงได้แปลงกายเป็นมนุษย์ขอบวชเป็นพระภิกษุ แต่อยู่มาวันหนึ่งเข้านอนในตอนกลางวัน หลังจากหลับแล้วมนต์ได้เสื่อมกลายเป็นงูใหญ่ จนพระภิกษุรูปอื่นไปเห็นเข้า พระพุทธเจ้าต้องมาเจรจากับนาคว่า ผู้ที่มาบวชในศาสนาของเราสงวนไว้สำหรับมนุษย์เท่านั้น ขอท่านพึงกลับสู่บ้านเกิดเมืองนอนของท่านเถิด นาคตนนั้นผิดหวังมาก จึงขอถวายคำว่า นาค ไว้ใช้เรียกผู้ที่เข้ามาขอบวชในพระพุทธศาสนา เพื่อเป็นอนุสรณ์ในความศรัทธาของตน พระพุทธองค์เห็นแก่ความศรัทธาของนาคจึงทรงอนุญาต ต่อจากนั้นมาพระพุทธเจ้าจึงทรงบัญญัติไม่ให้สัตว์เดรัจฉาน ไม่ว่าจะเป็นนาค ครุฑ หรือสัตว์อื่นๆ บวชอีกเป็นอันขาด เพราะก่อนที่อุปัชฌาย์จะอุปสมบทให้แก่ผู้ขอบวชจะต้องถาม อันตรายิกธรรม หรือข้อขัดข้องที่จะทำให้ผู้นั้นบวชเป็นพระภิกษุไม่ได้ รวม 8 ข้อเสียก่อน ในจำนวน 8 ข้อนั้น มีข้อหนึ่งถามว่า  “ มนุสฺโสสิ ” แปลว่า "ท่านเป็นมนุษย์หรือเปล่า" และผู้บวชต้องรับว่า “ อามะ ภันเต ” ขอรับ เจ้าข้า ...

นาค นอกจากจะแปลว่า งูใหญ่ แล้วยังแปลว่า ไม่มาสู่ความประพฤติชั่ว เป็นลักษณะของคนดี พระจะบวชให้เฉพาะนาคเท่านั้น คนชั่ว ๆ เป็นนาคไม่ได้ เพราะฉะนั้นทำความเข้าใจซะใหม่ว่า บวชนาค = บวชคนดี

•แก้ไขล่าสุด• ( •วัน•พฤหัสบดี•ที่ 05 •เมษายน• 2012 เวลา 16:50 น.• )